ชลประทานพิจิตรปักธงแดงแจ้งเตือนจุดวิกฤต เหตุมวลน้ำจากภาคเหนือยังคงไหลบ่าลงสู่แม่น้ำยมของจังหวัดพิจิตรอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูงไหลข้ามถนนเด็กๆวัยรุ่นเห็นวิกฤตเป็นโอกาสรวมตัวเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
https://youtu.be/fzOnpsA6EkQ
วันที่ 17 ตุลาคม 2566 นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานจังหวัดพิจิตร ยังคงปักธงแดงบนสะพานข้ามแม่น้ำยมเพื่อแสดงสัญลักษณ์แจ้งเตือนจุดวิกฤตของระดับน้ำในแม่น้ำยมว่าขณะนี้ระดับน้ำสูงขึ้นและได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรที่มีบ้านเรือนอยู่ในที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำยมในเขต อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพทะเล อ.บึงนาราง ว่าขอให้อพยพขนย้ายคน สัตว์ สิ่งของ รวมถึงคนแก่ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงให้ไปอยู่ในที่สูงหรือที่ปลอดภัย
โดยจากการรับข้อมูลจากชลประทานจังหวัดพิจิตร วันนี้ได้แจ้งว่าระดับน้ำที่จุดวัดระดับน้ำแม่น้ำน่าน อ.เมืองพิจิตร น้ำขึ้นสูงจากเมื่อวานนี้ 3 ซม. ระดับน้ำในแม่น้ำน่านยังคงอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง36 ซม. ซึ่งถือว่าอยู่ในจุดวิกฤตที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
ในส่วนของพื้นที่วิกฤตและมีเหตุน้ำท่วม คือ พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำยมในเขต อ.สามง่าม พบว่าขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่บริเวณหมู่ 9 บ้านกระทุ่มน้ำเดือด ต.รังนก อ.สามง่าม ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ซึ่งอยู่ในที่ลุ่มต่ำของ ต.รังนก แล้ว นับร้อยหลังคาเรือน ซึ่งชาวบ้านบอกว่าระดับน้ำในปีนี้ยังน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน สำหรับจุดที่ระดับน้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งไหลข้ามถนนบ้านรังนก-บ้านรายชะโด ที่ ที่บริเวณหมู่ 9 บ้านกระทุ่มน้ำเดือด ต.รังนก อ.สามง่าม ระดับน้ำล้นตลิ่งท่วมไหลข้ามถนนระดับน้ำสูงประมาณ 10-15 ซม.
ซึ่งมวลน้ำจำนวนนี้ก็จะไหลเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวซึ่งขณะนี้เก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้ว โดยชาวบ้านจะปล่อยให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นทุ่งรับน้ำและพื้นที่กักเก็บน้ำเพื่อทำอาชีพหาปลา ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านลุ่มน้ำยมของ ต.รังนก ดังกล่าวอีกด้วย สำหรับวิกฤตที่เกิดขึ้นเด็กๆวัยรุ่นในหมู่บ้านนับร้อยคนเห็นวิกฤตเป็นโอกาสพอถึงช่วงเย็นต่างก็รวมตัวกันมาเล่นน้ำบนท้องถนนที่กลายเป็นสวนน้ำกันอย่างสนุกสนาน
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้สรุปสถานการณ์ว่า พื้นที่ลุ่มต่ำมีประชาชนได้รับผลกระทบเสียหาย 1,953 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรจำนวน 11,202 ไร่ แต่พื้นที่เมืองหรือพื้นที่เศรษฐกิจขณะนี้ไม่พบความเสียหายหรือพื้นที่น้ำท่วม ส่วนการคมนาคมถนนในทุกเส้นทางถนนที่เข้า-ออก ในเมืองพิจิตร ยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ
สิทธิพจน์/พิจิตร/
